เรื่อง มอลต์ๆ มากกว่าที่คุณรู้จัก
อย่างที่หลายท่านทราบดีว่าส่วนผสมหลักในการทำเบียร์นั้นประกอบไปด้วย 1. มอลต์ 2. ฮอปส์ 3. ยีสต์ และ 4. น้ำ วันนี้เราจะนำทุกท่านไปรู้จักหนึ่งในส่วนผสมหลักของเบียร์นั่นก็คือ “มอลต์”
ผู้คนส่วนใหญ่จะเห็นมอลต์ส่วนใหญ่หรือเห็นกันคุ้นชินเลยก็คือ เครื่องดื่มมอลต์สกัดที่อุดมไปด้วยโปรตีน วิตามินและแร่ธาตุต่าง ๆ โดยเฉพาะวิตามินบี วิตามินบี วิตามินที่มีบทบาทสำคัญในกระบวนการเผาผลาญ ช่วยควบคุมการทำงานของเนื้อเยื่อและระบบต่าง ๆ ของร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งเสริมสภาวะสุขภาพของร่างกายให้แข็งแรง ลดความรู้สึกหิว ที่สามารถดื่มได้ตั้งแต่เด็กยันไปถึงผู้สูงอายุเลยทีเดียว ส่วนที่จะลงลึกลงมาก็น่าจะเป็นที่รู้จักในการการที่เป็นส่วนผสมในเบียร์ มอลต์ในการทำเบียร์นั้นจะขึ้นอยู่ว่าจะทำเบียร์ชนิดไหน และก็จะมีมอลต์ที่เป็น Special Malt ในการทำด้วย
มอลต์คือธัญพืชที่ผ่านกระบวนการแปรสภาพ ซึ่งมอลต์สามารถมาจากข้าวพันธุ์ไหนก็ได้เช่น ถ้าเป็นข้าวสาลี หรือ wheat ก็จะได้เป็น malted wheat แต่ส่วนใหญ่แล้วนั้นพันธุ์ข้าวที่นิยมนำมาแปรสภาพเป็นมอลต์นั้นจะเป็นข้าวบาร์เลย์ ที่มีคุณค่าทางโภชนาการ มีกลิ่นหอม และรสชาติอร่อยกลมกล่อม
มอลต์ที่ใช้ในการนำมาทำเบียร์นั้นจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท
1. Base Malt
Base มอลต์ คือแหล่งของแป้งและเอนไซม์เป็นมอลต์ที่จะใช้ในปริมาณมากที่สุดในการทำเบียร์แต่ละครั้งโดยจะนำมาต้มกับน้ำเดือดเพื่อสกัดเอาน้ำตาลจากในตัวมอลต์ ตัวอย่าง Base มอลต์ เช่น Pale มอลต์ , Wheat มอลต์ , Pilsen มอลต์ , Vienna มอลต์ และ Munich มอลต์
2. Special Malt
Special มอลต์ คือ มอลต์ที่มีไว้สำหรับใช้แต่งสีแต่งกลิ่นแต่งรสเพื่อเพิ่มเอกลักษณ์ของเบียร์ เป็นมอลต์ที่ถูกนำไปคั่วให้เข้มหรือแต่งสีแต่งกลิ่น โดยการทำเบียร์จะใช้ Special มอลต์ในสัดส่วนไม่มาก เพราะถ้าใส่มากไปอาจจะทำให้เบียร์มีสี กลิ่นและรสไม่สมดุลได้ ตัวอย่างSpecial มอลต์เช่น Roaster Barley , Black Malt / Patent Chocolate , Malt Pale , Chocolate Malt เป็นต้น
ความเข้มของสีของเบียร์นั้น ให้ดูจากค่าที่ชื่อ Lovibond หรือบางครั้งเรียกค่า L pale มอลต์ จะมีค่าสีอยู่ที่ 3.2 – 4.3 L เบียร์สีอ่อนๆก็ใช้ pilsen เพราะมีค่าสีอยู่ที่ 1.9 L ในการพิจารณาค่าองค์ประกอบของ special มอลต์ จะง่ายกว่า base มอลต์ เพราะดูเพียงแค่ค่าสีหรือ L ก็เพียงพอ การใช้มอลต์แต่ละชนิดก็จะให้รส กลิ่น และสี แตกต่างกันเพราะฉะนั้นหากท่านอยากทำเบียร์ชนิดไหนควรศึกษาเอกลักษณ์ของเบียร์ตัวนั้นให้ดี